ทำงานทั้งวันจนรู้สึกเหนื่อยล้า ถึงบ้านก็อยากจะพักผ่อน แต่ก็ทำอย่างที่คิดไม่ได้เพราะมีงานบ้านให้ทำมากมาย ไม่ว่าเป็นการดูดฝุ่น เช็ดกระจก ล้างห้องน้ำ ล้างพัดลม ซักผ้า รีดผ้า ที่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับการทำงานบ้านแบบประหยัดแรงมาฝากคุณพ่อบ้านแม่บ้าน รับรองว่าสะอาดเหมือนจ้างบริษัทรับทำความสะอาดบ้านมาทำให้เลยทีเดียว
1. เบกกิ้งโซดาตัวช่วยงานบ้าน
ถ้าพูดถึงเบกกิ้งโซดาในปัจจุบัน หลายคนคงไม่ได้นึกถึงประโยชน์ด้านการทำความสะอาดหรืองานบ้านสักเท่าไร แต่จะคิดถึงการทำขนมอย่างคุกกี้หรือเค้กเสียมากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านเกิดขึ้นมากมาย และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น แต่รู้ไหมว่า หากว่าเราไม่ได้อยากซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจำนวนมาก แค่เบกกิ้งโซดาตัวเดียวก็ช่วยขจัดคราบและกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ไม่แพ้น้ำยาทำความสะอาดอื่นๆ เลย
ก่อนที่จะบอกว่าเบกกิ้งโซดาใช้กับอะไรได้บ้าง เรามาดูคุณสมบัติของเบกกิ้งโซดากันก่อน
เบกกิ้งโซดา หรือชื่อทางเคมีคือ โซเดียมไบคาร์บอเนต มีลักษณะเป็นผลึกขาวเล็ก และมีค่าความเป็นด่างสูง สามารถละลายได้เมื่อได้รับความร้อน และเมื่อผสมกับน้ำจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และด้วยความเป็นด่างอ่อน ๆ นี้เองที่ทำให้ไขมันและโปรตีนคลายตัว และละลายน้ำได้ และนี่คือสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาดได้
- ลดคราบติดแน่น ไม่ว่าจะเป็นคราบติดแน่นในห้องน้ำ เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ ให้เราลองเอาฟองน้ำชุบน้ำแล้วบิดพอหมาด ๆ โรยเบกกิ้งโซดาลงไป แล้วขัดหรือถูสักครู่ แล้วค่อยล้างน้ำหรือเช็ดออก เพียงแค่นี้คราบหนักฝังแน่นก็จะจางหรือหายไป
- ลดกลิ่นตกค้าง ไม่ใช่เพียงการลดคราบเท่านั้น แต่ยังช่วยลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นในตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า หรือห้องน้ำ เพียงแค่เราเทเบกกิ้งโซดาแล้วไปใส่ไว้ตามที่ต่าง ๆ ก็จะช่วยดูดซับกลิ่นได้เป็นอย่างดี
- ล้างสารพิษตกค้าง หากว่าเราซื้อผักผลไม้มา แต่ไม่แน่ใจว่ามีสารพิษหรือยาฆ่าแมลงติดอยู่หรือไม่ ให้แช่ผักผลไม้ลงในน้ำเปล่าที่ผสมกับเบกกิ้งโซดา โดยปริมาณความเข้มข้นที่แนะนำคือ น้ำ 10 ลิตรต่อ 0.5 ช้อนโต๊ะ
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว เรายังสามารถใส่เบกกิ้งโซดาผสมกับผงซักฟอก ใช้ผสมน้ำแช่เท้า หรือนำมาผสมเป็นน้ำยาบ้วนปากได้ด้วย เรียกว่าสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว
2. ยาสีฟันและแปรงสีฟันสารพัดประโยชน์
ใครมีแปรงสีฟันที่ขนแปรงบานแล้ว อย่าเพิ่งทิ้ง นำมาใช้เป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดบ้านก่อน เพราะหัวเล็ก ๆ ของแปรงสีฟันนี่แหละ ที่เข้าซอกซอนทำความสะอาดคราบเล็ก ๆ ในบ้านให้สะอาดหมดจดได้
และสำหรับยาสีฟัน จะมีส่วนประกอบที่เป็นส่วนของผงขัดฟัน และสารทำความสะอาดที่ทำให้เกิดฟอง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้คราบไขมันและสิ่งสกปรกต่าง ๆ หลุดออกได้อย่างง่ายดายนั่นเอง
- แปรงสีฟัน ตัวช่วยทำความสะอาดซอกเล็ก ๆ ที่ยากต่อการเข้าถึง ไม่ว่าจะเป็นขอบหน้าต่าง ขอบบัว รอยต่อก๊อกน้ำ และจุดอื่น ๆ ที่ผ้าหรือแปรงอื่น ๆ ไม่สามารถทำความสะอาดได้
- ยาสีฟัน สามารถใช้ในการขัดเครื่องประดับ คราบสกปรกตามซอกต่าง ๆ คราบชากาแฟบนแก้ว คราบไหม้บนเตารีด พื้นยางรองเท้า กระจก ก๊อกน้ำหรือส่วนอื่น ๆ ที่เป็นโครเมียม นอกจากนี้เรายังสามารถนำยาสีฟันไปปิดทับรอยเจาะตามกำแพงได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ยาสีฟันยังสามารถนำไปใช้ทำความสะอาดได้สารพัด และหากว่าเรามีกลิ่นอาหารติดมือ เราก็สามารถนำยาสีฟันมาล้างมือให้กลิ่นจางหายไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน
3. มะนาวกำจัดคราบไขมัน
เมื่อพูดถึงตัวช่วยทำความสะอาดบ้านที่มีฤทธิ์เป็นด่างกันไปแล้ว คราวนี้เรามาใช้ตัวช่วยที่มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างมะนาวกันบ้าง
นอกจากใช้ในการปรุงอาหารแล้ว คุณสมบัติเด่นที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ คือ การผสมกับน้ำยาล้างจาน นั่นเป็นเพราะว่ามะนาวสามารถช่วยทำความสะอาดคราบไขมันต่าง ๆ ที่ติดทนอยู่ และยังช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย
- กำจัดคราบไขมันในห้องน้ำ และตามพื้นที่อื่น ๆ บ้านไหนที่มีคราบไขมันในห้องน้ำ ขัดเท่าไรก็ไม่ออกสักที ให้นำน้ำมะนาวครึ่งถ้วยผสมกับน้ำร้อนประมาณ 4 ลิตร จากนั้นนำไปราดห้องน้ำ แล้วทิ้งเอาไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วขัดห้องน้ำตามปกติ คราบไขมันที่ฝังแน่นจะขัดออกได้ง่ายกว่าเดิม หรือหากว่าใครรู้สึกว่าท่อน้ำทิ้งมีกลิ่นเหม็นหรือสกปรก ก็ให้ใส่น้ำร้อนผสมน้ำมะนาวลงไปในท่อน้ำทิ้ง ทิ้งไว้สักพัก ราดด้วยน้ำเปล่า ก็จะช่วยกำจัดคราบและกลิ่นเหม็นได้เป็นอย่างดี
- กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็น ไม่เพียงแค่ทำความสะอาด และมะนาวยังช่วยดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย เพียงแค่นำสำลีหรือผ้าชุบน้ำมะนาวแล้ววางไว้ในตู้เย็น แค่นี้กลิ่นอาหารที่ตกค้างในตู้เย็นก็จะค่อย ๆ จางหายไป
- ทำความสะอาดสเตนเลส คราบสนิมที่เกาะแน่น จนทำให้บ้านดูสกปรกหรือเก่า แต่เหล่าพ่อบ้านแม่บ้านสามารถกำจัดคราบได้ง่าย ๆ ด้วยการนำน้ำมะนาวมาผสมกับเบกกิ้งโซดา แล้วนำมาขัดในส่วนที่เป็นสเตนเลส เพียงแค่นี้คราบสนิมก็จะหายไป
นอกจากนี้ มะนาวยังสามารถนำไปล้างหรือเช็ดแก้วให้ใสสะอาดยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยกำจัดคราบฝังลึกต่าง ๆ ได้อีกด้วย
4. น้ำส้มสายชู ทำความสะอาดคราบฝังแน่น
มาถึงตัวช่วยสุดท้ายที่จะแนะนำ นั่นก็คือ น้ำส้มสายชู ที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร แต่ยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยทำความสะอาดและกำจัดคราบที่ฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบบปลอดภัย ไร้สารเคมีตกค้าง
- ทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างสะอาดหมดจด ใครที่เบื่อกับการออกแรงขัดห้องน้ำ ลองราดน้ำส้มสายชูลงบนพื้น แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที คราบไขมันต่าง ๆ ก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย
- ทำความสะอาดไมโครเวฟ ใครที่มีปัญหาไมโครเวฟสกปรก มีกลิ่น หรือคราบอาหารฝังแน่น ให้เอาน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำอย่างละครึ่งใส่ลงในชาม และนำเข้าไมโครเวฟ อบประมาณ 3 นาที ทิ้งไว้จนเย็น แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดตามจุดต่าง ๆ ของไมโครเวฟ ไอน้ำจากน้ำส้มสายชูจะช่วยให้คราบหลุดออกง่ายขึ้น แต่มีข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรนำน้ำออกจากไมโครเวฟโดยทันที ควรรอให้เย็นก่อน เพราะน้ำร้อนอาจจะพุ่งจากแก้วมาโดนร่างกายของเราได้ หากว่าใครไม่แน่ใจ อาจจะใช้วิธีนำน้ำส้มสายชูผสมน้ำยาล้างจานเช็ดหลังใช้ทุกครั้ง ก็จะช่วยกำจัดคราบและกลิ่นได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูยังช่วยกำจัดเชื้อรา คราบหมากฝรั่ง และคราบที่ติดเตารีด แต่ข้อควรระวังก็คือ วัสดุบางชนิด อย่างหม้อสเตนเลส เคาน์เตอร์หิน กระเบื้องยาแนว ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูในการทำความสะอาด โดยเฉพาะการเทราดแบบไม่ผสมน้ำ เพราะจะทำให้พื้นผิวเสียหายได้
สำหรับใครที่อ่านแล้ว แต่ยังไม่อยากลุกขึ้นมาทำงานบ้านเองอยู่ดี หรืออยากพักผ่อนแบบยาว ๆ สามารถเลือกใช้บริการแม่บ้านออนไลน์ ที่รับทำความสะอาดบ้านราคาพิเศษจากบริษัทชั้นนำ อย่าง Seekster, ServisHero, BeNeat ได้เช่นเดียวกัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน The LivingOS หรือหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราผ่านช่องทางต่อไปนี้
โทรศัพท์ 02-114-8248
Line@ : @thelivingos
E-mail : info@thelivingos.com