fbpx

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

บริษัท เดอะ ลีฟวิ่ง โอเอส คอร์เปอเรชั่น จํากัด

บริษัท เดอะ ลีฟวิ่ง โอเอส คอร์เปอเรชั่น จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความ สำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นรากฐานในการสร้างความสัมพันธ์ทาง ธุรกิจที่น่าเชื่อถือกับลูกค้าและคู่ค้า บริษัท จึงยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎเกณฑ์ทางการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อจัดให้มีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม สำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัททำการรวบรวม ใช้ และ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายและกฎเกณฑ์ทางการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ มีเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงประเภทของ เจัาของข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

• ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของบริษัท เช่น ผู้ใช้งานบุคคลทั่วไป พนักงานของนิติบุคคลผิดดูแลอาคารชุดหรือหมู่บ้าน
• เจัาของกรรมสิทธิ์ ผู้อยู่อาศัย หรือ ผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในโครงการ ซึ่งบริษัทเป็นผู้ให้บริการ
• ผู้ให้บริการ หรือคู่ค้าของบริษัท ทั้งในฐานะบุคคลธรรมดา หรือ ผู้แทนของนิติบุคคล
• พนักงาน หรือลูกจ้างของบริษัท รวมถึงผู้สมัครที่มีความประสงค์จะเข้า ทำงานกับบริษัท
(ต่อไปนี้จะขอเรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”)

1.ข้อมลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผย

บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูล

ส่วนบุคคล

ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษ้ท เก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผย

ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว

ชื่อ-นามสกุล, วัน/เดือน/ปีเกิด, หมายเลขบัตรประจำตัว ประชาชน, หมายเลขหนังลือเดินทาง, เพศ, อายุ, สัญชาติ, รูป ถ่าย, ลายมือชื่อ, สถานภาพสมรส และคู่สมรส

ข้อมูลการติดต่อ

ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล์, LINE ID, หรือ บัญชี Social media ต่างๆ

ข้อมูลเกี่ยวกับ

การทำธุรกรรม

และข้อมูล ทางการเงิน

ประวัติการใช้บริการ,ข้อมูลการขอเข้าเมือง (VISA) และใบ อนุญาตท่างาน (Work permit)สำเนาโฉนดที่ดิน, สำเนาทะเบียนบัาน, หมายเลขบัญชีธนาคาร, หมายเลขบัตรเครดิต, ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อ

ข้อมูลเกี่ยวกับ การใช้งานระบบ คอมพิวเตอร์

หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address), บัญชีผู้ใช้งาน, คุกกี้, ข้อมูลและประวัติการเข้าถึงแอพพลิเคขั่น และเว็บ ไซด์ของบริษัท

ข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน

ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน, สถานภาพสมรส, สถานะทางทหาร, ใบอนุญาตต่างๆ, ข้อมูลเกี่ยวกับสวัสดิการและผลประโยชน์ต่างๆ, ข้อมูลการปฏิบัติงานและข้อมูลทางวินัย, ข้อมูลบุคคลที่สาม (ครอบครัว, ผู้ค้ำประกัน, บุคคลอ้างอิง, บุคคลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน), ข้อมูลประกันสังคม



ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

ศาสนา, ข้อมูลสุขภาพ (เช่น หมู่เลือด, ประวัติสุขภาพ เป็นต้น), ข้อมูลพันธุกรรมหรือข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ เป็นต้น), พฤติกรรมทางเพศ

2.วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายของบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีวัตถุประสงค์และอาศัยฐานทางกฎหมาย สำหรับการการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

ฐานทาง กฎหมาย

กิจกรรม/วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ฐานหน้าที่ตาม กฎหมาย

1. เพื่อให้การดำเนินการของบริษัท สอดคล้องกับกฎหมายหลักเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับ บริษัท เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, กฎหมายภาษีอากร, กฎหมายแรงงาน, กฎหมายประกันสังคม, กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง, รวมถึงคำสั่งศาล หรือหน่วยงาน อื่นๆ ของรัฐ เป็นต้น

2. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือ หน่วยงานกำกับดูแลหรือเพื่อให้เป็นไปตาม

กฎข้อบังคับ หรือข้อผูกพันที่กฎหมายหรือภาครัฐกำหนด

ฐานสัญญา และ การปฏิบัติตาม สัญญา

1. เพื่อการให้บริการ และดำเนินธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท อาทิ การใช้งานแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ของบริษัทงานบริการด้านความปลอดภัย และ กิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงาน นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลบ้านจัดสรร

2. เพื่อดำเนินการจัดทำสัญญาซื้อขาย เช่า หรือนิติกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของเจัาของข้อมูลส่วนบุคคล รวม ถึงการที่เกี่ยวข้องในการเข้าทำนิติกรรมดังกล่าว

3. เพื่อการชำระเงิน (ข้อมูลบัตรเครดิตจะถูกจัดเก็บและถูกตรวจสอบผ่านทางระบบชำระเงินผ่านบุคคลที่สาม ข้อมูลนี้ จะไม่ถูกจัดเก็บอย่างถาวรในเซิร์ฟเวอร์ขอบริษัท และจะถูก ลบทันทีหลังจากผ่านระบบการตรวจสอบโดยระบบชำระเงิน ของบุคคลที่สาม เพื่อตรวจสอบตัวตนของท่าน)

4. เพื่อยืนยันและ/หรือ ระบุตัวตนของเจัาของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ หรือการติดต่อ กับบริษัท

5. เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ หรือเรื่องร้องเรียนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไวักับบริษัท

6. เพื่อใช้ในการขึ้นทะเบียนและยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ รวมถึงการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท

กิจกรรม/วัตถประสงค"ในการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

7. เพื่อใช้ในการการขึ้นทะเบียนคู่ค้า การจัดซื้อจัดจ้างและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามสัญญาว่าจ้าง และการทำธุรกรรมทางการเงิน

8. เพื่อวัตถุประสงค์ในการค้างงาน ประเมินผลการปฏิบัติงาน การจ่ายค่าจ้างและผลประโยชน์ต่างๆ รวมถึงการดำเนินการอื่นๆ หรือการติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการทำงานภายใต้ สัญญาจ้างงาน

ฐานประโยชน์อันชอบธรรม

1. เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน การตรวจสอบ การพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการการวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและ ขยายธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ โดยอยู่ภายใต้กระบวนการที่ ทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลได้ (Anonymization)และอยู่ภายใต้มาตรฐานการรักษาปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม

2. เพื่อการดำเนินการภายในแกไขปัญหาของเว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูล ทดสอบ วิจัย เพื่อความปลอดภัย การตรวจ สอบการปิดเบือน และการจัดการบัญซีผ่ใช้

3. เพื่อตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดหรืออาจจะ ละเมิดต่อกฎหมาย

4. เพื่อปกป้องการดำเนินธุรกิจของบริษัท รวมถึงการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของบริษัท บุคคลากร และเค้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคล อื่น

5. เพื่อการสอบสวนหรือตรวจสอบภายในด้านต่างๆ เช่น ด้าน ความปลอดภัย ด้านการปฏิบัติงาน เป็นต้น

6. เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัท รวมถึงเยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเลียหายที่อาจเกิดขึ้น

7. เพื่อติดต่อสื่อสารทางธุรกิจกับผู้แทน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง กับนิติบุคคลซึ่งเป็นศู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัท

8. เพื่อการติดต่อสื่อสารกับผู้'ที่มีความสัมพันธ์ หรือเกี่ยวข้อง กับพนักงานของบริษัทในกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน หรือสอบถามข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน

ฐานความยินยอม

1. เพื่อการนำเสนอสิทธิประโยชน์หรือบริการอื่นๆ ของบริษัท การส่งข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ ในการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด และการตลาดแบบตรง

2. เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ของท่าน

ในกรณีที่ท่านไม่อาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท การดำเนินการที่จำเป็นต้อง ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจล่าช้า หรือไม่อาจดำเนินการได้

3.ระยะเวลาการเก็บรักษา

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านยังคงใช้บริการ หรือยังคงมีความสัมพันธ์กบบริษัทไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง และจะยังคงเก็บรักษา ต่อไปเป็นระยะเวลา 10 ปีหลังจากที่ความสัมพันธ์ของท่านกับบริษัทสิ้นสุดลง หลังจากนั้นบริษัทจะลบ ท่าลาย หรือท่าให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูล ที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เวนแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นทางกฎหมาย หรอ เหตุผลทางเทคนึ่ครองรับ

4.การเปิดเผยข้อมลส่วนบุคคล

การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ถูกจำกัดไวัเฉพาะแก่,บุคคลที่มีความ จำเป็นในการรับรู้ข้อมูล (Need to know) ทั้งนี้เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการท่างานเพื่อให้บรรลุวัตฤประสงค์ตามที่ได้ระบุไว้ ไนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทอาจเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ บุคคลภายนอก เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลสวนบุคคลของท่าน หรือ ให้กับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1)บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด - บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตาม กฎหมายของหน่วยงานรัฐต่างๆ
2)กลุ่มบริษัทที่มีความเกี่ยวข้อง และบริษัทในเครือของบริษัท - บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก,บริษัทอื่นๆ เพื่อวัตฤ ประสงค์ทางการตลาด โดยได้รับความยินยอมจากท่าน
3)ผู้ให้บริการแก่บริษัท - บริษัทอาจใช้บริการบุคคลภายนอกเพื่อช่วยใน การดำเนินการต่างๆ ของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์นักพัฒนาเว็บไซด์ สื่อติจิทัล, ผู้ให้บริการการขนส่ง, ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและ ระบบการเงิน, ผู้ให้บริการด้านการวิจัยและวิเคราะห์, ผู้ตรวจสอบบัญชี, ผู้ให้บริการด้านการตลาดและงานกิจกรรม, ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม สื่อสาร, ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและคลาวด้, ผิให้บริการด้าน การพิมพ์, ทนายความ, ที่ปรึกษากฎหมาย, ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บ และ/หรือท่าลายเอกสาร และ/หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่นๆ ทั้งนี้ โดย บริษัทจะกำหนดให้ผู้ให้บริการดำเนินการเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว ของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และต้องห้ามมิให้ผู้รับเหมาใช้ข้อมูลส่วน บุคคลของท่านเพื่อวัตฤประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อสนับสนุนกิจกรรม หรืองานของบริษัท
4) ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้จัดการ หรือดูแลผลประโยซน์แทนท่าน - เช่น บุคคลติดต่อ ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านตาม กฎหมาย
5) บุคคลใดๆ ที่บริษัทได้รับคำสั่งจากท่านให้เปดเผยข้อบุลส่วน บุคคลของท่านให้กับบุคคลด้งกล่าว

5.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยส่าหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เช่น การจำกัดการเข้าถึง ข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัท มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของทานไวเป็นความลับและมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทกำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการ ใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6.สิทธิของท่าน

ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล โดยท่านอาจใช้สิทธิของท่านในฐานะเจาขอังขอมูลส่วนบุคคลตัง ต่อไปนี้ เวนแต่บริษัทจะมีเหตุในการปฏเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วย กฎหมาย
1) สิทธิในการถอนความยินยอม - ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมของ ท่าน การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแลัว
2) สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล - ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรักษาไว้
3) สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อบุลส่วนบุคคล - ท่านมีสิทธิ์ ที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้ท่าให้ข้อมูลส่วนบุคคลดัง กล่าวอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปไดด้วยเครื่องมือหรือ อุปกรณ์ที่ท่างานโดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยด้วยวิธีการ อัตโนมัติ รวมทั่งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไป ยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บรื่ษัทได้สงหรือโอนไปยัง บุคคลภายนอก
4) สิทธิคัดด้าน - ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์อันชอบด้วย กฎหมาย หรือเพื่อวัตฤประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตฤ ประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์หรือสถิติ
5) สิทธิในการขอให้ลบ - ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทลบ ท่าลาย หรือ ท่าให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ ใน กรณีที่บริษทหมดความจำเป็น หรือไม่มื่สิทธิดามกฎหมายในการเก็บรักษา ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
6) สิทธในการขอให้ระงับ - ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ระหว่างการตรวจ สอบความถูกต้อง หรืออยู่ในระหวางที่บริษท พิจารณาคำขอในการใช้สิทธิ คัดค้านของท่าน หรือในกรณีที่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วน บุคคลแทนการลบหรือท่าลาย
7) สิทธิในการขอแก้ไข - ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบุรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความ เข้าใจผิด
8) สิทธิในการร้องเรียน - ท่านมีสิทธิในการริองเรียนต่อคณะกรรมการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือส่านักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านได้ โดยติดต่อมายังบริษัทตามรายละเอียด การติดต่อในข้อ 9. โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำขอฯ ของท่านภายใน 30 วัน ทั้งนี้บริษัทอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำขอฯ ของ ท่านในกรณีที่มีกำหนดกฎหมายไว้’'

7.การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ภายนอก

เว็บไซต์ของบริษัทจะมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นอาจมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างจากของบริษัท ขอ ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้นๆ เพื่อเข้าใจถึงรายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อตัดสินใจ ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม

8.การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้

บริษัทอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับนี้ได้ในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและสอดคลองกับ
การเปลี่ยนแปลงของการดำเนินงานของบริษัท หรือเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ กฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไป

9.ช่องทางในการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้
กรุณาติดต่อ
บริษัท เดอะ ลีฟวิ่ง โอเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด
สำนักงาน: เลขที่ 100/1 อาคารวรสมบัติ ชั้น 15 ห้อง 15L ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. 10310
เว็บไซต์: https://www.thelivingos.com ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ของบริษัท
(Call Center) 02-481-5234
อีเมล: support@thelivingos.com

Thank You

Your form is submitted and we received the email.